นับเป็นเวลากว่า 17 ปี ที่บริษัท เนชั่นแนล ไอทีเอ็มเอ๊กซ์ จำกัด ได้ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2548 เพื่อเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการพัฒนาระบบชำระเงินของประเทศไทย โดยเริ่มเปิดให้บริการการชำระเงินระหว่างธนาคารบริการแรก ตั้งแต่เดือนตุลาคม ปี 2550 เป็นต้นมา ซึ่งการปฎิวัติอุตสาหกรรมทางการเงิน และการเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยีดิจิทัล รวมถึงภูมิทัศน์ของระบบการชำระเงินในประเทศไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ได้มีส่วนช่วยผลักดันให้บริษัทฯ สามารถสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดดได้อย่างเต็มศักยภาพ

มาถึงทุกวันนี้ การจับจ่ายใช้สอย การชำระเงิน การโอนเงินทั้งของภาคประชาชนและภาคธุรกิจ สามารถทำได้สะดวกยิ่งขึ้นได้ เนื่องจากเรามีระบบการชำระเงินกลางที่ทำหน้าที่นี้ ซึ่งก็คือระบบ ITMX ของเรา ระบบ ITMX จึงเปรียบเสมือนเหมือนกับเสาหลักของระบบการชำระเงินของประเทศในยุคดิจิทัล โดยในปี พ.ศ. 2564 ระบบ ITMX ได้ทำการประมวลผลธุรกรรมการชำระเงินระหว่างธนาคารกว่า 10,000 ล้านรายการ และมีเงินหมุนเวียนผ่านระบบ ITMX มีมูลค่ามากกว่า 39 ล้านล้านบาท

โดยบริการหลักที่ถือว่าเป็นที่รู้จักและเป็นบริการสำคัญของบริษัท เนชั่นแนล ไอทีเอ็มเอ๊กซ์ คือ พร้อมเพย์ (PromptPay) ซึ่งเป็นระบบการชำระเงินของประเทศที่สามารถใช้งานผ่าน mobile Application ซึ่งในปัจจุบันได้มีผู้ลงทะเบียนพร้อมเพย์ทั้งสิ้นที่ 65.3 ล้านหมายเลข และมีธุรกรรมเฉลี่ย 33 ล้านรายการต่อวัน สูงสุดที่ 47.08 ล้านรายการต่อวัน (ข้อมูล ณ สิ้นเดือน เม.ย.65) ซึ่งถือเป็นความภาคภูมิใจของทีมงานทุกฝ่ายรวมถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเป็นอย่างมาก ที่สามารถสร้างสรรค์บริการที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้ครอบคลุมทุกภาคส่วน

ด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมากว่า 17 ปี รวมถึงความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในการที่จะเป็น Digital Infrastructure แห่งอนาคตสำหรับ Banking Industry ที่นอกจากการเป็นโครงสร้างพื้นฐานการชำระเงินที่มีความก้าวหน้า มีประสิทธิภาพ และความปลอดภัยสูงสุดด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยสำหรับภาคประชาชนแล้ว บริษัทฯ ยังมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินสำหรับภาคธุรกิจ โดยได้มุ่งเน้นพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินที่สำคัญของประเทศ ได้แก่ 1) Core Payment Infrastructure เช่น PromptPay และ ICAS 2) B2B Business Infrastructure เช่น โครงการ Smart Financial and Payment Infrastructure for Business (Smart Infra.) และ National Digital Trade Platform (NDTP) และ 3) แผนการต่อยอดการใช้ประโยชน์จากข้อมูลขนาดใหญ่หรือ Big Data ทำให้บริษัทฯ มีการพัฒนาพันธกิจที่สำคัญต่างๆ เพื่อเร่งการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลให้เติบโตแบบก้าวกระโดด โดยมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางด้านดิจิทัลเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยสำหรับระบบการชำระเงิน และบริการทางการเงินของประเทศ เพื่อที่จะสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค และเพื่อส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศอย่างยั่งยืนอีกด้วย

Top