เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา คุณฉัตรชัย ดุษฎีโหนด กรรมการผู้จัดการ บริษัท เนชั่นแนล ไอทีเอ็มเอ๊กซ์ จำกัด (NITMX) ได้รับเกียรติร่วมเป็นวิทยากรบรรยายพิเศษในงาน “NTT Data Ignite 2025” ซึ่งถือเป็นหนึ่งในงานสัมมนาด้านเทคโนโลยีที่ยิ่งใหญ่ระดับโลก จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Transformation in Action” เพื่ออัปเดตเทรนด์และเทคโนโลยีด้าน IT Infrastructure, Cybersecurity, Data และ AI ล่าสุดจากทั่วโลก พลิกโฉมธุรกิจสู่ยุคดิจิทัลอย่างแท้จริง งานนี้จัดขึ้น ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และได้รับความสนใจจากผู้บริหารระดับสูง ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ นักวิชาการ ตลอดจนผู้ประกอบการในหลากหลายอุตสาหกรรมจากทั่วโลกที่เข้าร่วมอย่างคับคั่ง

         คุณฉัตรชัย ดุษฎีโหนด ได้กล่าวถึง ปัจจัยแห่งความสำเร็จของระบบการชำระเงินดิจิทัลไทย ว่า NITMX ในฐานะ “บริษัทกลาง” ทำหน้าที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานด้านการแลกเปลี่ยนธุรกรรมทางการเงิน เริ่มตั้งแต่ระบบ ATM จนขยายสู่บัตรเครดิต บัตรเดบิต และบริการ Digital Payment เต็มรูปแบบ ปัจจุบันมีสมาชิกทั้งจากธนาคารและผู้ให้บริการทางการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารกว่า 37 แห่ง อยู่ในเครือข่าย โดยคุณฉัตรชัยได้กล่าวถึง ยอดธุรกรรมปัจจุบันที่ผ่านระบบพร้อมเพย์ ในเดือนกรกฎาคม 2568 อยู่ที่ 2.22 พันล้านรายการ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่อยู่ที่ 1.95 พันล้านรายการ คิดเป็นอัตราเติบโต 14% มูลค่ารวมของธุรกรรมอยู่ที่ 4.30 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% จากเดือนเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 4.16 ล้านล้านบาท สะท้อนถึงการใช้งานที่ต่อเนื่องและมั่นคงในชีวิตประจำวันของผู้ใช้บริการทั่วประเทศ พร้อมกันนี้ PromptPay ยังขยายสู่เวที Cross-Border QR Payment ครอบคลุมแล้วกว่า 9 ประเทศ ได้แก่ กัมพูชา เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ฮ่องกง ลาว มาเลเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม และอินโดนีเซีย โดยในเดือนกรกฎาคมประเทศไทยมี มาเลเซีย เป็นคู่ค้าหลัก ตามด้วย ลาว และ อินโดนีเซีย ซึ่งช่วยเสริมความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจดิจิทัลในภูมิภาคอาเซียน

         ความสำเร็จของ PromptPay เกิดจาก “ระบบนิเวศความร่วมมือ” ของทุกภาคส่วน ภาครัฐทำหน้าที่กำหนดนโยบายและมาตรฐาน เชื่อมโยงบริการรัฐสู่ประชาชนอย่างโปร่งใสและลดต้นทุน กลุ่มสมาชิกธนาคารและผู้ให้บริการทางการเงินบูรณาการระบบหลังบ้านและมาตรการความปลอดภัย รองรับธุรกรรมมหาศาลแบบเรียลไทม์ ลดการพึ่งพาสาขาและเอทีเอ็ม ขยายช่องทางการชำระเงินให้ผู้ประกอบการเข้าถึงได้ง่ายและทันสมัย ขณะที่ร้านค้าและประชาชนได้รับประโยชน์จากการรับ โอนเงินที่รวดเร็ว ปลอดภัย ลดค่าธรรมเนียม เพิ่มสภาพคล่อง และเชื่อมต่อธุรกิจได้ทั้งในและต่างประเทศ  

         ก้าวต่อไปของ NITMX คือการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานการชำระเงินของประเทศสู่มาตรฐานสากล ISO 20022 ซึ่งถือเป็นภาษากลางด้านข้อมูลทางการเงินที่ทั่วโลกให้การยอมรับ การนำมาตรฐานนี้มาใช้จะช่วยให้ระบบการชำระเงินของไทยสามารถเชื่อมโยงกับระบบการเงินระหว่างประเทศได้อย่างไร้รอยต่อ เพิ่มความถูกต้องและครบถ้วนของข้อมูลธุรกรรม รองรับนวัตกรรมการเงินใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศในเวทีเศรษฐกิจโลก

         คุณฉัตรชัย ดุษฎีโหนด ยังเน้นย้ำว่า “ปัจจัยสำคัญที่ทำให้พร้อมเพย์ประสบความสำเร็จ คือ การร่วมมือกันของทุกภาคส่วน และเราต้องแคร์ผู้ใช้ก่อน เราไม่สามารถผลักดันเทคโนโลยีโดยไม่คำนึงถึงผู้ใช้ได้ การเปลี่ยนผ่านดิจิทัลจะสำเร็จได้ ก็ต่อเมื่อทุกคนรู้สึกว่าเทคโนโลยีนั้นใช้งานง่ายและเป็นประโยชน์จริงครับ”